รีวิวหนัง Devil (ปีศาจ) ใครคือปีศาจ? ที่แฝงตัวมาอยู่ในลิฟต์

ยังไงหนังแนวปีศาจก็ฆ่าไม่ตายจริงๆ เพราะมันสามารถแตกแขนงออกไปได้หลายทางมากๆ อย่างที่เราเคยพาทุกคนไปดูหนังเรื่อง “ELI (จิตต้องขัง)” ที่เป็นเรื่องราวของปีศาจที่แฝงอยู่ในตัวโดยที่ไม่รู้ตัวนั่นเอง แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูหนังที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจอีกเช่นกัน แต่เป็นหนังเก่าที่เรียกได้ว่า พอเราได้ย้อนกลับไปดูมันก็ยังสามารถทำงานของมันได้เป็นอย่างดีเหมือนเดิมใน “รีวิวหนัง Devil (ปีศาจ)” นั่นเอง

ชื่อเรื่อง : “Devil” (ปีศาจ)

แนว : สยองขวัญ

นักแสดง : Bojana Novakovic, Bokeem Woodbine, Jenny O’Hara, Logan Marshall-Green, Chris Messina, Geoffrey Arend, Caroline Dhavernas

บทภาพยนตร์ : M. Night Shyamalan

ผู้กำกับ : John Erick Dowdle

ค่าย : Universal Studios

วันฉาย : 30 กันยายน 2010

เวลา : 1 ชั่วโมง 20 นาที

IMDb : 6.2

เรื่องย่อ

ในวันหนึ่งที่เมืองฟิลาเดลเฟีย อยู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้น นั่นก็คือมีคนตกตึกเสียชีวิตจากชั้นที่ 35 นั่นทำให้นักสืบบาวเดน (รับบทโดย Chris Messina) ต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ตึกแห่งนี้ เพื่อสืบหาความจริง แต่ในขณะเดียวกัน ที่ตึกเดียวกันนี้กลับเกิดเหตุการณ์ลิฟต์ค้างขึ้นมา ทั้งๆที่ระบบทุกอย่างดูปกติดีทุกอย่าง โดยลิฟต์ที่ค้างนั้นมีผู้โดยสารที่ยังติดอยู่ในลิฟต์ทั้งหมด 5 คน ประกอบไปด้วย “เบน” (รับบทโดย Bokeem Woodbine) รปภ.หน้าใหม่ของตึก, “ซาร่า” (รับบทโดย Bojana Novakovic) หญิงสาวคนหนึ่ง, “วินซ์”(รับบทโดย Geoffrey Arend) เซลล์แมนสุดกวน, หญิงชรา (รับบทโดย Jenny O’Hara) และ “แอนโทนี” (รับบทโดย Logan Marshall-Green) ชายหนุ่มคนหนึ่ง เรื่องราวเหมือนจะเป็นการที่ลิฟต์ค้างตามปกติ แต่ทุกครั้งที่ไฟในลิฟต์ดับลงชั่วขณะนั้นจะมีคนต้องตายทุกครั้งเมื่อไฟติด

รีวิวหนัง Devil (ปีศาจ)

เอาจริงๆมันลุ้นระทึกมากนะกับหนังเรื่องนี้ เราดูไปลุ้นไป ดูไปกรี๊ดไป เรียกได้ว่าเป็นชั่วโมงกว่าที่อัดแน่นมากๆ ไหนจะต้องคิดตามว่าใครกันนะที่เป็นปีศาจที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้โดยสารที่ติดอยู่ในลิฟต์นั้น  ไหนจะต้องคอยระแวงว่า ปีศาจมันจะฆ่าใครเป็นรายต่อไป แล้วจะมีคนรอดชีวิตไปได้หรือไม่

อีกทั้งการรวมตัวของคนทั้ง 5 คนที่ติดอยู่ในลิฟต์นั้นยังไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่เราคิดกันหรอกนะ เพราะใน 5 คนนั้นล้วนมีส่วนเกี่ยวพันกันทั้งสิ้น แล้วแต่ละคนก็ไม่ใช่คนดีอย่างที่เราเห็น ซึ่งทุกคนล้วนมีเรื่องราวที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายคนอื่นๆ หรือแม้กระทั่งทำให้ผู้อื่นตายไป แต่กลับไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น แถมยังหนีปัญหาอีกด้วย ทั้งหมดนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนังที่สอนให้เรารู้จักยอมรับความจริง และรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็น อย่างที่เราเห็นในตอนท้ายของเรื่องที่แอนโทนี่ยอมรับความผิดที่ตัวเองได้กระทำไปนั้น นั่นทำให้ปีศาจต้องไว้ชีวิตเขาทั้งๆที่อยากเอาชีวิตเขาไปให้ได้

สำหรับหนังเรื่องนี้ ถ้าหากใครที่มีเวลาไม่มากนัก และยังชอบหนังแนวปีศาจสยองขวัญที่ไม่ได้น่ากลัวเลือดสาด หนังเรื่องนี้ก็น่าจะตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่ถ้าหากคุณชอบหนังแนวฟีลกู๊ด หนังเรื่องนี้ก็อาจจะไม่ใช่แนวสำหรับคุณเลย แต่สำหรับเรา เราให้หนังเรื่องนี้สอบผ่านฉลุยเลย เรียกได้ว่าเป็นชั่วโมงกว่าที่คุ้มค่ามากๆ

ตัวอย่าง

หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนังดีๆ หรือรับชมหนังต่างชาติเรื่องอื่นๆ เช่น..อย่าลืมติดตามกันได้ที่ Fancy-kid.com