ว่ากันว่าถ้าเป็นการ์ตูนนั้นก็ควรจะเหมาะสมสำหรับเด็กและคนทุกวัย แต่ทว่าภาพยนตร์เรื่อง แบทแมนรีเทิร์น นั้นกลับมีความรุนแรงอยู่มากเสียจนถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นฉากต่างๆ ที่ดูมืดมนจนเกินไป รวมถึงการเสียชีวิตของตัวละครในเรื่อที่มักจะโหดเหี้ยมเกินเรตติ้งที่ถูกจัดไว้ให้เป็นสำหรับทุกวัยนั่นเอง ซึ่งผลที่ตามมาก็คือภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่คนนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้โทนอ่อนลงนั่นเอง
สำหรับเรื่องราวของ แบทแมนรีเทิร์น นั้นจะเป็นคราวของเพนกวินและแคมวูแมนที่ร่วมมือกันเพื่อเอาชนะมนุษย์ค้างคาวให้ได้ หลังจากที่เพนกวินได้จับตัวแมกซ์ เชรกเศรษฐีที่มีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าในเขตหวงห้ามเพื่อขอความช่วยเหลือให้เขากลับมามีชีวิตเป็นออสวัลด์ คอบเบอร์พอดอีกครั้งนับตั้งแต่ถูกพ่อแม่ทิ้งเมื่อครั้งยังเด็ก จนกระทั่งเจ้าตัวลงสมัครเพื่อเป็นนายกเทศมนตรีและทำให้พระเอกของสงสัยว่าเขามีเหตุจูงใจอะไรกันแน่
แม้ว่าเรื่องของแบทแมนภาคนี้จะอิงมาจากหนังสือการ์ตูนเป็นหลักก็ตาม แต่ทว่าความรุนแรงที่ทิม เบอร์ตันใส่ไว้ในเรื่องไม่ว่าจะเป็นฉากที่เพนกวินกัดจมูกของลูกน้องทีมตนเองจนหน้าแหก หรือจะเป็นตอนที่แคทวูแมนจัดการหัวหน้าเก่าของเธออย่างแมกซ์ เชรกด้วยการช็อตไฟฟ้าจนเหลือแต่กระดูกเปล่า รวมถึงตอนจบชีวิตของเพนกวินที่ดูจะโหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กจนโดนวิจารณ์อย่างหนักของโทนดาร์กในเรื่องนี้
ด้วยคำวิจารณ์เหล่านี้เองทำให้แบทแมนภาคต่อมานั้นได้ลดความรุนแรงลง โดยโจล ชูมัคเกอร์ผู้กำกับคนใหม่ที่มาแทนเบอร์ตันที่ถอยหลังไปเป็นผู้อำนวยการสร้างแทนได้เปลี่ยนทิศทางของเรื่องในภาคฟอร์เรฟเวอร์ แต่ทว่าผลตอบรับก็แฟนๆ ก็ด้อยลงไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะตัวละครมนุษย์ค้างคาวผู้จืดชืดจากเดิมผิดกลับที่ไมเคิล คีตันทำมาตรฐานไว้สูงนั่นเอง
ติดตามรีวิวหนังดีๆดีต่อใจที่คุณไม่ควรพลาดและติดตามรีวิว Romance Doll รักยิ่งใหญ่จากภรรยาช่างทำตุ๊กตายาง คุณต้องดูสักครั้งในชีวิต
More Stories
Zom 100 : Bucket List of The Dead ซีรี่ส์สุดฮาจากอนิเมะยอดฮิต
Unlocked ระวังอย่าทำโทรศัพท์หาย อีกภาพยนต์คุณภาพ จาก Netflix
Stardust ก็เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ถูกนำกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง