รีวิว The Sleep Over หนังครอบครัวแนว Spy kid จอมโจร

สำหรับใครที่กำลังมองหาหนังเบาสมองเอาไว้ดูกับลูกๆหลานๆ หรือเอาไว้ดูเองเพื่อผ่อนคลายตัวเองจากเรื่องราวต่างๆ เราต้องขอแนะนำหนังเรื่อง “The Sleep Over” เลย เพราะมันเป็นหนังที่ออกแนวสายสืบรุ่นเด็ก เราเลยคิดว่าเด็กๆน่าจะชอบกันนะ  อีกอย่างเลย หนังเรื่องนี้ยังมีการเน้นไปที่เรื่องราวของครอบครัวเป็นซะส่วนใหญ่ด้วย เรียกได้ว่าเหมาะกับการผ่อนคลายมากๆ เอาเป็นว่า วันนี้เราไปดูหนังเรื่องนี้ไปพร้อมกับการ รีวิว The Sleep Over กันเลย

ชื่อเรื่อง : “The Sleep Over”

แนว : แอคชั่น คอมเมดี้

นักแสดง : Sadie Stanley, Maxwell Simkins, Cree Cicchino, Lucas Jaye, Ken Marino, Joe Manganiello, Malin Åkerman

บทภาพยนตร์ : Sarah Rothschild

ผู้กำกับ : Trish Sie

ค่าย : Netflix

วันฉาย : 21 สิงหาคม 2020

เวลา : 1 ชั่วโมง 30 นาที

IMDb : 5.5

เรื่องย่อ

เรื่องราวของครอบครัวธรรมดาๆครอบครัวหนึ่ง ที่ประกอบไปด้วยพ่อแม่ที่ระเบียบจัด และลูกสาวกับลูกชายคนเล็ก โดยในวันหนึ่งพ่อและแม่ของพวกเขาได้ถูกจับตัวไป นั่นทำให้พวกลูกๆต้องออกตามหาพ่อและแม่ของเขาให้เจอ และนั่นก็ทำให้พวกเขาค้นพบความจริงว่า จริงๆแล้วแม่ของเขาเคยเป็นจอมโจรที่มีฝีมือระดับเทพมาก่อน อีกทั้งยังเคยร่วมงานกับระดับเจ้าพ่อที่มีอิทธิพลมาแล้ว

ด้วยความที่แม่ของเขาต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข จึงทำการเปลี่ยนชื่อและเข้าร่วมโครงการคุ้มครองพยานให้กับ FBI แต่ชีวิตเธอจะไม่สงบสุขอีกต่อไป เมื่อพวกโจรร้ายมาเห็นคลิปวีดีโอของลูกชายที่ถ่ายติดเธอถูกแพร่กระจายออกไปทางอินเตอร์เน็ต  พวกโจรจึงเข้าไปจับตัวเธอพร้อมกับสามี เพื่อหวังจะให้เธอปล้นมงกฎของราชินีให้

รีวิว The Sleep Over

สำหรับหนังเรื่องนี้ เราไม่ได้คาดหวังเอาไว้สูงเท่าไร เพราะดูจากเรทแล้วมันเป็นเรทสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 7 ปีเป็นต้นไป เลยคิดว่าน่าจะเป็นหนังแนวที่เบาสบายสมองนั่นแหละ เพราะฉะนั้น ในเรื่องของเหตุผลต่างๆนาๆของหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้มีอะไรที่มันมีเหตุมีผลอะไรมากนัก เรียกได้ว่าโยนเหตุผลมันทิ้งไปได้เลย  ซึ่งหลังจากที่ได้ดูมันก็เบาสมองจริงๆนะ ออกแนวครอบครัวที่แฝงเรื่องราวของความสัมพันธ์พ่อแม่ลูกเอาไว้ได้อย่างดีเลยทีเดียว

เนื่องจากหนังเรื่องนี้มันเป็นหนังสำหรับเด็ก  อีกทั้งยังเป็นหนังตามพล็อตเดิมๆ อารมณ์ประมาณว่า ฉากหน้าเป็นครอบครัวธรรมดาๆ ที่ออกจะเพี้ยนๆด้วยซ้ำ แต่เบื้องหลังนั้นกลับเป็นอะไรมากกว่าที่คุณคิด แต่สิ่งที่น่าเสียดายมากที่สุด นั่นก็คือ ตัวบทมันดูครึ่งๆกลางๆ แบบไปได้ไม่สุดสักทาง เราว่าจริงๆแล้วน่าจะทำให้มันดีกว่านี้อีกนิดนะ เพราะในส่วนของเนื้อเรื่องก็เป็นเนื้อเรื่องเดิมๆแล้ว ไม่ได้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆเลย มันเลยทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไร แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นหนังที่สามารถดูได้เพลินๆเรื่อยๆ ถ้าไม่คิดอะไรมากนะ

ตัวอย่าง

หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนังดีๆ หรือรับชมหนังต่างชาติอื่นๆ เช่น รีวิว จักรกลเลือดดุ (Bloodshot) หนังแอคชั่นสุดมันส์ ที่นำแสดงโดยวิน ดีเซล อย่าลืมติดตามกันได้ที่ Fancy-kid.com